กุญแจสู่ความสำเร็จในการเทรดฟิวเจอร์ส 1: เชี่ยวชาญพื้นฐานให้มั่น
เข้าใจโครงสร้าง ขั้นตอน และแนวคิดสำคัญของการเทรดฟิวเจอร์สอย่างลึกซึ้ง
การซื้อขายฟิวเจอร์สคริปโตไม่ใช่แค่เกมทายทิศทางของราคา การเข้าใจโครงสร้าง ขั้นตอนปฏิบัติ และแนวคิดพื้นฐานอย่างครบถ้วนคือกุญแจแรกสู่ความสำเร็จ
โครงสร้างการทำงานของการเทรดฟิวเจอร์ส
การเทรดฟิวเจอร์สของคริปโตคือการซื้อขายสัญญาอนุพันธ์ที่อนุญาตให้คุณซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง (เช่น Bitcoin) ในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ณ เวลาหนึ่งในอนาคต (หรือไม่มีวันหมดอายุในกรณีของฟิวเจอร์สแบบ Perpetual) ฟิวเจอร์สแบบ Perpetual ไม่มีวันหมดอายุ คุณสามารถเข้าและออกจากสถานะเมื่อใดก็ได้ และสามารถทำกำไรได้ทั้งจากฝั่ง Long และ Short
ตัวอย่าง: ในคู่ BTC/USDT หากคุณคาดว่าราคา Bitcoin จะเพิ่มขึ้น ให้เปิด Long หากคิดว่าราคาจะลดลง ให้เปิด Short ข้อแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดจากการเทรด Spot คือคุณสามารถทำกำไรได้ไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง
-> [ฟิวเจอร์สคืออะไร?]
ขั้นตอนการปฏิบัติจริง
1. สร้างบัญชีและเข้าสู่ระบบที่เว็บเทรด ดำเนินการยืนยันตัวตน KYC ระดับ 1 (โดยใช้บัตรประชาชน/ใบขับขี่/หนังสือเดินทาง)
2. ฝากคริปโตไปยังกระเป๋า Funding → โอนเข้าสู่กระเป๋า Futures
3. เลือกคู่เทรดและตั้งค่าเลเวอเรจตามที่ต้องการ (สูงสุด 100 เท่า)
4. เลือกฝั่ง Long หรือ Short กำหนดราคาที่ต้องการเข้า ราคาลิควิด และประเภทคำสั่ง (Limit / Market ฯลฯ)
5. หลังจากเปิดสถานะ ให้ติดตามคำสั่ง สถานะกำไร/ขาดทุน และราคาถูกล้างสถานะแบบเรียลไทม์
6. หลังปิดสถานะ ตรวจสอบสถานะสินทรัพย์และประวัติการเทรดให้รอบคอบ
💡หากคุณยังไม่เข้าใจแนวคิดในแต่ละขั้นตอน ควรศึกษาให้ครบถ้วนก่อนทำการเทรดจริง
|
คำศัพท์และแนวคิดสำคัญที่ต้องรู้
• เลเวอเรจ: ตั้งแต่ 1x ถึง 100x ช่วยให้สามารถเปิดเทรดด้วยเงินทุนน้อย แต่ความเสี่ยงขาดทุนและถูกล้างพอร์ตจะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วน
• มาร์จิ้น: เงินทุนบางส่วนของคุณที่ใช้เป็นหลักประกันในการเปิดสถานะ หากไม่เพียงพอ ต้องเติมเพิ่ม มิฉะนั้นจะถูกล้างสถานะ
-> [เลเวอเรจคืออะไร?]
-> [มาร์จิ้นคืออะไร?]
• การล้างสถานะ (Liquidation): หากมาร์จิ้นต่ำกว่าระดับที่กำหนด เว็บเทรดจะปิดสถานะของคุณโดยอัตโนมัติ และอาจสูญเสียเงินบางส่วน
• ค่าธรรมเนียม Funding: สำหรับฟิวเจอร์สแบบ Perpetual จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมระหว่างฝั่ง Long และ Short เป็นระยะ เพื่อให้ราคาฟิวเจอร์สใกล้เคียงกับราคาสปอต (แยกต่างหากจากค่าธรรมเนียมการเทรด)
• การใช้งาน Order Book: การดูคำสั่งซื้อขายและสภาพคล่องของตลาดแบบเรียลไทม์เป็นสิ่งสำคัญมาก
-> [Order Book คืออะไร?]
จุดสำคัญที่ต้องตรวจสอบ & วิธีหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด
• ต้องยืนยันตัวตน (KYC) และยอมรับข้อกำหนด — เตรียมเอกสารให้พร้อมล่วงหน้า
-> [การยืนยันตัวตน KYC ระดับ 1]
• อย่าสับสนระหว่างวิธีฝากเงินและประเภทกระเป๋า (Funding vs Futures)
-> [คู่มือประเภทกระเป๋า: Funding และ Futures]
• ปรับเลเวอเรจอย่างระมัดระวัง — ยิ่งสูง ความเสี่ยงยิ่งมาก
• ตรวจสอบสถานะการเทรดและประวัติคำสั่งซื้อแบบเรียลไทม์อยู่เสมอ
• แนะนำให้ฝึกเทรดด้วยบัญชีทดลองหรือจำนวนเงินเล็กน้อยก่อนเทรดจริง
💡เพียงเข้าใจขั้นตอน โครงสร้าง และคำศัพท์อย่างลึกซึ้ง ก็สามารถลดความผิดพลาด และสร้างพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อการเติบโตระยะยาวได้
|