ภาพรวมการเทรดฟิวเจอร์สแบบถาวร

  • ฟิวเจอร์สเทรดดิ้งคืออะไร?

    • Perpetual Futures แตกต่างจากสัญญาฟิวเจอร์สแบบดั้งเดิมที่มีวันหมดอายุ — สัญญานี้ไม่มีวันหมดอายุ เทรดเดอร์สามารถถือครองสถานะได้แบบไม่มีกำหนดตราบใดที่ยังคงรักษามาร์จิ้นตามข้อกำหนด นั่นคือจนกว่าจะถูกลิควิเคชัน (บังคับปิดสถานะ)

 

  • ฟิวเจอร์สเทรดดิ้งแตกต่างจากสปอตเทรดดิ้งอย่างไร?

    • สปอต
      • สปอตเทรดดิ้งคือการซื้อหรือขายสินทรัพย์ในราคาตลาดปัจจุบันเพื่อชำระราคาและส่งมอบทันที
    • ฟิวเจอร์ส
      • การซื้อขายฟิวเจอร์สแบบไม่มีวันหมดอายุเป็นการซื้อขายอนุพันธ์ที่กำไรและขาดทุนถูกกำหนดจากส่วนต่างของราคาโดยไม่ต้องส่งมอบสินทรัพย์จริง
      • ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรจากความผันผวนของราคา และสามารถใช้เลเวอเรจเพื่อเปิดสถานะที่มีขนาดใหญ่กว่าทุนที่ถือจริง
      • อย่างไรก็ตาม เลเวอเรจสามารถเพิ่มทั้งโอกาสทำกำไรและความเสี่ยงได้ เทรดเดอร์ควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนลงทุน
    • ราคาดัชนี (Index Price): ราคาตลาดเฉลี่ยที่คำนวณจากราคาสปอตของหลายกระดานหลัก ช่วยลดการบิดเบือนราคาและทำให้การประเมินสถานะสอดคล้องกับตลาดจริง ป้องกันการถูกลิควิเคชันโดยไม่เป็นธรรม

 

  • ค่าธรรมเนียมอะไรบ้างที่เกิดขึ้นในการเทรดฟิวเจอร์ส?

    1. ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย

      • ค่าธรรมเนียมการซื้อขายจะถูกเรียกเก็บทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขายเมื่อคำสั่งถูกจับคู่ อัตราค่าธรรมเนียมจะแตกต่างกันไปในแต่ละกระดานและอาจแตกต่างตามระดับผู้ใช้

      • Maker Fee: ค่าธรรมเนียมเมื่อวางคำสั่งลิมิต อัตราพื้นฐานคือ 0.02%

      • Taker Fee: ค่าธรรมเนียมเมื่อวางคำสั่งมาร์เก็ต อัตราพื้นฐานคือ 0.06%

        สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมของ Coinness Trade กรุณาดูด้านล่าง

        What are Trading Fees?

    2. Funding Fee

      • ค่าธรรมเนียมที่แลกเปลี่ยนระหว่างฝั่ง Long และ Short เพื่อลดช่องว่างของราคาระหว่างสปอตและฟิวเจอร์ส ค่าเปอร์เซ็นต์นี้เรียกว่า Funding Rate หาก Funding Rate เป็นบวก ฝั่ง Long จะจ่ายให้ฝั่ง Short หากเป็นลบ ฝั่ง Short จะจ่ายให้ฝั่ง Long ดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง

        What are Funding Fees?

 

  • สามารถลดค่าธรรมเนียมการซื้อขายได้ไหม? (ระดับ VIP)

    • โครงสร้างการลดค่าธรรมเนียมตามระดับ VIP

      • Coinness Trade มีระบบ VIP ที่ให้ระดับแก่ผู้ใช้ตามปริมาณการซื้อขายและยอดเงินเฉลี่ย ระดับ VIP ยิ่งสูง ค่าธรรมเนียมยิ่งต่ำ กล่าวคือ ปริมาณการซื้อขายและเงินทุนมากขึ้น ค่าธรรมเนียมจะถูกลง

      • ระดับ VIP คำนวณตามปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 30 วันและยอดเงินเฉลี่ย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง

        What are VIP fees?

เกณฑ์ระดับ VIP (ปริมาณซื้อขาย + ยอดถือโทเคน)

TierMaker fee (%)Taker fee (%)30D Trading Volume30D Average Balance
Non-VIP0.0200%0.0600%--
VIP 10.0180%0.0500%$5,000,000$50,000
VIP 20.0160%0.0400%$10,000,000$100,000
VIP 30.0140%0.0375%$25,000,000$250,000
VIP 40.0120%0.0350%$50,000,000$500,000
Supreme VIP0.0000%0.0300%$500,000,000$5,000,000

 

  • ขีดจำกัดการซื้อขายฟิวเจอร์ส

      1. ปริมาณคำสั่งขั้นต่ำ

        • ปริมาณคำสั่งขั้นต่ำแตกต่างกันในแต่ละคู่ ตัวอย่าง:

        • เช่น BTCUSDT: 0.0001 BTC, ETHUSDT: 0.01 ETH

          ตรวจสอบส่วน [Minimum Order Quantity] ที่ด้านล่างของหน้าสำหรับแต่ละคู่

          Contract Details

      2. เลเวอเรจสูงสุด

        • ขีดจำกัดเลเวอเรจสูงสุดแตกต่างกันไปตามเหรียญ และอาจปรับได้ตามกฎระเบียบของตลาด
          • BTCUSDT: สูงสุด 125x
          • ETHUSDT / XRPUSDT / SOLUSDT: สูงสุด 100x
          • คู่อื่น: สูงสุด 50x
      3. ขีดจำกัดความเสี่ยง

        • ขีดจำกัดความเสี่ยงตั้งค่าการขาดทุนสูงสุดที่ยอมรับได้เพื่อป้องกันการขาดทุนเกินจำเป็น ขีดจำกัดแตกต่างกันในแต่ละคู่ ดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์ด้านล่าง

          What is Risk Limit?

 

  • กฎสำคัญในการเทรดฟิวเจอร์ส

    1. ข้อกำหนดบัญชี
      • ต้องทำ KYC เพื่อเทรดฟิวเจอร์ส กรุณาทำ KYC Level 1 ให้เสร็จสมบูรณ์
      • หลังจากฝากเงินเข้า Coinness Trade ให้โอนเงินจาก Funding Wallet ไปยัง Futures Wallet เพื่อเริ่มการเทรด
    2. ประเภทคำสั่ง
      • คำสั่งลิมิต: กำหนดราคาและปริมาณด้วยตัวเอง
        • เงื่อนไขการจับคู่: จะถูกจับคู่ก็ต่อเมื่อราคาตลาดถึงราคาที่ตั้งไว้
        • ข้อดี: สามารถซื้อขายในราคาที่ต้องการ
        • ข้อเสีย: อาจไม่ได้จับคู่ทันที
      • คำสั่งมาร์เก็ต: จับคู่ทันทีตามราคาที่ดีที่สุดในตลาด
        • ข้อดี: จับคู่ได้ทันที
        • ข้อเสีย: อาจเกิดสลิปเพจ
      • คำสั่งตามเงื่อนไข
        • Stop Limit: เมื่อราคาถึงจุด stop จะเปิดใช้งานคำสั่งลิมิต
        • Stop Market: เมื่อราคาถึงจุด stop จะเปิดใช้งานคำสั่งมาร์เก็ตและจับคู่ทันที
    3. การคำนวณ PnL
      • rPnL (กำไร/ขาดทุนที่รับรู้แล้ว) + uPnL (กำไร/ขาดทุนที่ยังไม่รับรู้)
        • rPnL: กำไรหรือขาดทุนจริงจากการเทรดที่ปิดแล้ว
        • uPnL: กำไรหรือขาดทุนจากสถานะที่ยังเปิดอยู่และเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์
      • การเปลี่ยนแปลง PnL เมื่อปรับเลเวอเรจ
        • การปรับเลเวอเรจไม่เปลี่ยน PnL ปัจจุบันของสถานะ แต่จะเปลี่ยนข้อกำหนดมาร์จิ้นและขนาดการแกว่งของกำไร/ขาดทุนในอนาคต เลเวอเรจสูงทำให้ PnL ขยับมากขึ้น เลเวอเรจต่ำทำให้ขยับน้อยลง
    4. Funding & การแบ่งปันกำไร
      • Funding Rate: ค่าธรรมเนียมที่แลกเปลี่ยนกันระหว่าง long และ short เพื่อให้ราคาฟิวเจอร์สใกล้เคียงกับราคาสปอต ถ้าเป็นบวก long จ่ายให้ short ถ้าเป็นลบ short จ่ายให้ long
      • เงื่อนไขการจ่าย Funding
        • Funding rate > 0: Long Short
        • Funding rate < 0: Short Long
      • รอบการชำระ: ทุก 8 ชั่วโมง
        • 00:00 / 08:00 / 16:00 (UTC)
    5. การจัดการความเสี่ยง
      • การลิควิเคชัน (บังคับปิดสถานะ)

        • เกิดขึ้นเมื่อยอดมาร์จิ้นต่ำกว่ามาร์จิ้นที่ต้องรักษา ระบบจะปิดสถานะโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันไม่ให้ขาดทุนเกินยอดคงเหลือในบัญชี

        • กระบวนการลิควิเคชัน

          1. เปิดสถานะ: เปิด long/short โดยใช้มาร์จิ้น
          2. ราคาเคลื่อนสวนทาง: ขาดทุนเพิ่มและมาร์จิ้นใกล้ระดับบำรุงรักษา
          3. ทริกเกอร์: เมื่อมาร์จิ้นต่ำกว่าระดับบำรุงรักษา (ตามราคาดัชนี) ระบบจะทำงาน
          4. ปิดสถานะ: ปิดที่ราคาตลาด

          ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่าง

          What is Liquidation?

      • ADL (ระบบลดเลเวอเรจอัตโนมัติ)

        • หากกองทุนประกันของตลาดไม่สามารถครอบคลุมการขาดทุน ระบบจะลดเลเวอเรจของสถานะฝั่งตรงข้ามที่มีกำไรโดยอัตโนมัติเพื่อชดเชย
      • ขีดจำกัดความเสี่ยง

        • เครื่องมือจำกัดความเสี่ยงเพื่อลดการเปิดรับความเสี่ยง เมื่อขนาดสถานะใหญ่ขึ้น ความต้องการมาร์จิ้นเริ่มต้นและมาร์จิ้นบำรุงรักษาจะสูงขึ้น และเลเวอเรจที่อนุญาตจะต่ำลง

          ดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์ด้านล่าง

          What is Risk Limit?

           

 

  • คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

    1. Funding Rate ชำระเมื่อใด?

      ทุก ๆ 8 ชั่วโมง: 00:00 / 08:00 / 16:00 (UTC)

    2. การปรับเลเวอเรจทำให้ PnL เปลี่ยนไหม?

      การปรับเลเวอเรจจะไม่เปลี่ยน PnL ปัจจุบันโดยตรง แต่ความผันผวนของ PnL ในอนาคตอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลง

    3. ถ้าสถานะถูกลิควิเคชันเพียงบางส่วนจะเกิดอะไรขึ้น?

      การลิควิเคชันบางส่วนช่วยจัดการความเสี่ยง โดยปิดบางส่วนของสถานะเพื่อรักษากำไรหรือรักษามาร์จิ้นให้อยู่เหนือระดับที่ต้องการเพื่อป้องกันการปิดสถานะทั้งหมด

    4. ปิดสถานะตามลำดับอย่างไรเมื่อเกิดการลิควิเคชัน?

      ดูส่วน [การจัดการความเสี่ยง] > [การลิควิเคชัน] ด้านบน

    5. ความแตกต่างระหว่าง Cross Margin และ Isolated Margin?

      • Cross margin
        • ใช้มาร์จิ้นจากทั้งบัญชีร่วมกันสำหรับทุกสถานะที่เปิดอยู่ เงินในบัญชีจะถูกใช้เป็นมาร์จิ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปิดสถานะ
        • ขาดทุนที่ยังไม่รับรู้สามารถหักล้างกับกำไรที่ยังไม่รับรู้เพื่อลดความเสี่ยงการปิดสถานะ
        • ข้อดี: ความเสี่ยงถูกลิควิเคชันต่ำ ประสิทธิภาพการใช้ทุนสูง
        • ข้อเสีย: หากสถานะใดขาดทุนหนัก อาจทำให้ทั้งบัญชีเสี่ยง
      • Isolated margin
        • จัดการมาร์จิ้นแยกแต่ละสถานะ หากมาร์จิ้นต่ำกว่าที่กำหนด จะปิดเฉพาะสถานะนั้น
        • ข้อดี: แยกความเสี่ยง จำกัดการขาดทุน
        • ข้อเสีย: ความเสี่ยงการถูกปิดสูงกว่า ประสิทธิภาพทุนต่ำกว่า

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโหมดมาร์จิ้น ดูลิงก์ด้านล่าง

What is Margin Mode?